ของครูในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 3 นนทบุรี - พระนครศรีอยุธยา
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2554
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการนำกระบวนการ PDCA มาใช้ในการพัฒนางานวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 (นนทบุรี -พระนครศรีอยุธยา) และเพื่อประเมินความพึงพอใจต่อการนำกระบวนการ
PDCA มาใช้ในการพัฒนางานวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียนของครู กลุ่มประชากรที่ใช้ในการวิจัยคือครูผู้ปฏิบัติการสอนในโรงเรียนประจำปีการศึกษา 2554 จำนวน 167 คน กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยการใช้สูตรการคำนวณของทาโร
ยามาเน ได้ขนาดของกลุ่มตัวอย่างจำนวน 117 คน สุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple
random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถามความคิดเห็นชนิดให้กลุ่มตัวอย่างตอบด้วยตนเองที่ผู้วิจัยเป็นผู้พัฒนาขึ้น เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) การเก็บรวบรวมข้อมูลกระทำระหว่างเดือนมีนาคม 2555 ผลการวิจัย สรุปได้ดังนี้
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับระดับความเหมาะสมของการนำกระบวนการ PDCA มาใช้ในการทำงานวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ว่าอยู่ในระดับเหมาะสมมากถึงระดับมากที่สุดในทุกด้าน ได้แก่
ด้านการวางแผนโครงการการปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียน (Plan :P) ด้านการดำเนินการตามแผน (Do : D) ด้านการประเมินผลการดำเนินการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน (Control
: C) และด้านการนำผลการประเมินไปปรับปรุง (Act :A)
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ประเมินความพึงพอใจต่อการนำกระบวนการ
PDCA มาใช้ในการพัฒนางานวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียนอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุดในทุกเรื่องยกเว้นเรื่อง
การให้คำแนะนำ/ช่วยเหลือด้านวิชาการในระหว่างดำเนินงาน
เรื่องความร่วมมือที่ได้รับจากหน่วยงานภายนอก
และเรื่องความร่วมมือที่ได้รับจากนักเรียนและผู้ปกครองที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ประเมินความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง
ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้
1.) ผู้เกี่ยวข้องควรจัดหาเอกสารเกี่ยวกับการทำวิจัยในชั้นเรียนไว้สำหรับเป็นคู่มือให้ครูได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้ตลอดเวลา
เพื่อนำไปเป็นแนวทางการทำวิจัยในชั้นเรียนให้ถูกต้องตามกระบวนการ
2.) ควรจัดระบบงานในโรงเรียนให้เอื้อต่อครูผู้สอนให้มีเวลาพอจะทำการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอน
3.) ควรจัดหาวัสดุอุปกรณ์
งบประมาณจากแหล่งทุนทั้งในหน่วยงานและนอกหน่วยงานเพื่อเป็นแหล่งค้นคว้าในการทำวิจัยในชั้นเรียน
4.) ควรจัดให้มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการทำวิจัยในชั้นเรียนทั้งในกลุ่มสาระการเรียนรู้เดียวกันและนอกกลุ่มสาระการเรียนรู้เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการทำวิจัยในชั้นเรียนให้มากยิ่งขึ้นต่อไป
5.) ผู้ที่เกี่ยวข้องควรสื่อสารกับนักเรียนและผู้ปกครองให้เข้าใจและเห็นความสำคัญของการทำวิจัยในชั้นเรียน
เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันให้มากยิ่งขึ้นต่อไป
6.) คณะกรรมการดำเนินงานควรมีการนิเทศติดตาม
แนะนำและให้ความช่วยเหลือสนับสนุนการทำงานวิจัยในชั้นเรียนของครูให้มากยิ่งขึ้น